เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา
(กุ้ยหลินเมืองไทย)
อุทยานแห่งชาติเขาสก
“เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”
เขื่อนเชี่ยวหลาน อยู่ในพื้นที่ของจังหวัด สุราษฎร์ธานี ที่ขึ้นชื่อว่า "เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ" ถ้าถามความสวยก็สวยมากๆ เป็นอ่างเก็บน้ำที่สวยเอามากๆ มีภูเขาหินกระจายไปทั่วอ่างเก็บน้ำ น้ำในอ่างเป็นสีเขียวเข้มมรกต (จนบางที่ก็แอบคิดว่านี่มาอยู่กลางทะเลป่าวว่ะ ) และมีน้ำอยู่ในปริมาณที่เยอะมาก กักเก็บน้ำสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศ (นี่คิดว่าเก็บได้มากสุดของประเทศแล้วนะ แต่ก็ยังไม่ใช่) เพราะเขื่อนดูใหญ่มาก
ถ้าถามว่ารอบนี้มาไง ง่ายๆรวดเร็วก็เครื่องบิน ลงจอดปุบ ส่วนรอบนี้เราใช้รถส่วนตัวไป ถ้าใครเอารถไปแล้วจะนอนพักบนแพก็มีจุดรับฝากรถบนฝั่ง ถ้าจำไม่ผิดคืนละ 80 บาท(ถ้าจำไม่ผิดนะ) ส่วนราคาเรือแนะนำว่าให้ไปกันเป็นกลุ่มหลายๆคนจะคุ้มและถูกกว่า เพราะอย่างรอบนี้เราไป 2 คน เหมาเรือลำละ 2000 บาท แล้วแต่ความไกลของแพที่พักที่จะพักด้วย ส่วนพวกเรารอบนี้เลือกพักแพของอุทยาน "แพนางไพร " แพจะอยู่ตรงข้ามกับเขาสามเกลอ แพหันหน้าไปทางเขาสามเกลอจุดพ้อย ถ้าสนใจติดต่อ ลุงอรุณ 081-085-1762 จองแพได้ และมีบริการเรือ แพที่พักราคาไม่สูง อยู่ที่ 300 บาทไม่รวมค่าอาหาร ถ้าไปจำนวนเยอะก็จะมีค่าอาหาร อีกนิดหน่อย ห้องน้ำแยก แต่สะดวก โดยรวมพวกเราว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยนะ

แพนางไพรอยู่ไม่ไกลมาก และเป็นแพอุทยานที่เป็นจุดให้เรือมาจอดแวะพัก ตลอดวัน จุดเล่นน้ำก็ด้านหน้าแพ มีเรือให้พายเล่น น้ำน่าเล่น วิวดี ไม่มีพัดลม แอร์ เพราะอากาศดีอยู่แล้วหายห่วง (มีสัญญาาณโทรศัพท์ ) ถ้าใครสนใจเข้าไปไกลกว่านั้นของอุทยายยังมีอีกหลายแพ อาทิ แพโตนเตย แพคลอง แพไกรสร งบน้อยแนะนำแพของอุทยานราคาไม่สูง สะอาด ประหยัด
หลังจากถึงแพ ก็จัดการสัมภาระต่างๆเข้าที่พัก ถ้าใครสนใจจะไปดูถ้ำ ชมวิวก็ลองติดต่อถามเรือที่มา พวกเราติดต่อต้องเสียเพิ่มอีก 2000 บาท สำหรับจะไปดูถ้ำ (ไปแล้วก็อยากไปให้คุ้ม ) จริงๆมันมีอยู่หลายจุดสำหรับจุดชมวิว แต่บางจุดก็ปิดในบางช่วง ส่วนรอบนี้พวกเราข้อไปบุกถ้ำ ซึ่งนั่งเรือต่อไปอีกหน่อย ผ่านแพที่พักอีกหลายแพ เข้าลึกนิดหน่อย ลงจุดลงเรือเดินต่อไปเพื่อไปต่อแพไม่ไผ่(ยนตร์) เพื่อไปยังถ้ำหินปูนมีประกายวิ้งๆ
นั่งแพไม่ไผ่ไปสัก 10 นาที(น่าจะถึงมั่งนะ) ก็จะถึงจุดลงแพ เดินขึ้นไปที่ถ้ำ ส่วนมากก็จะมาเจอกับกลุ่มอื่นๆที่มาด้วย รอบที่ไปเจอลุงที่บริการแพ แกเล่าเรื่องเขื่อนสนุกดี
เดินขึ้นไปดูหินปูนในถ้ำ จะมีประกายวิ้งๆตามจุดต่างๆในถ้ำ หินหงอกหินย้อยเป็นหยุดน้ำตกลงมา
นี่แค่บางมุม ถ้าถามว่าสวยมั้ยสวย ถ้าถามมีแค่นี้เหรอ ใช่ แต่วิวตรงจุดที่เราไปสวยนะ จุดแพไม้ไผ่ จุดลงเรือ มีผีเสื้อเยอะมาก วิวตรงนี้จะอยู่ในหุบเข้าหิน เหมือนมีหินล้อมรอบ ย่อยๆ

ลุงแกหน้ามืดไปหน่อย แดดมันแรง (

กรอบขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะคะลุง
ชมวิวดูถ้ำจบก็นั่งเรือกลับที่พัก ไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาให้ตกน้ำเล่น จะกระโดด จะกลิ้ง จะโพสท่ากระโดดยังไงก็จัดกันไปตามแต่สะดวก 555

(ขาหมูเย็นๆมาแล้วจ้า -.-)
ถ้าใครนอนที่แพ ตื่นเช้ามาก็จะเห็นหมอกทั่วเขื่อน อากาศเย็นๆกลางทะเลหมอก บรรยากาศเงียบๆ ตอนเช้าๆ

ตื่นสายไง หมอกหาย 55 ไม่ต้องตกใจมีหมอกเยอะจิงๆ

ตื่นมาก็เล่นน้ำกันต่อได้เลย น้ำอุ่นมากไม่เย็น
ปลาที่อยู่บริเวณแพที่พัก เยอะมาก

ในเขื่อนไม่มีปลาทีนนะ 55
แพที่พักส่วนใหญ่จะมีเรือเข้ามาเทียบขายของ อย่างวันนั้นก็เจอไอศครีมมะพร้าว อร่อย ^^ กินหมดหายห่วง
ถ้าใครจะซื้อขนม หรือน้ำแข็ง น้ำดื่มไป แนะนำซื้อจากฝั่งไปนะ แวะเซเว่นหรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะบนแพไม่มีพวกขนมขาย ใครจะซื้อกระติกหรืออะไรใส่ไปก็ได้ เพราะเอาลงเรือได้หมด สะดวกดีด้วย อาหารบนแพก็มีจะสั่งบนแพก็สั่งได้ แต่ต้องสั่งไว้
พอสายๆก็นั่งเรือกลับฝั่ง ก็นัดกับคนขับเรือไว้ เวลาไหน ยังไง ตอนกลับส่วนใหญ่ก็จะไปแวะจุดเขาสามเกลอ จุดพ้อยหลักๆ เพื่อถ่ายรูปกัน
จะบอกว่า ของจริงที่คุณจะไป มันสวยกว่ารูปอีกหลายเท่า อยากให้ไปเองมากกว่ามานั่งดูรูปนะ ว่ามันสวยยังไง แตกต่างจากที่อื่นๆยังไง เพราะทุกๆที่ของประเทศไทยไม่มีเหมือนหรือซ้ำกันจริง ๆ ไม่รับรองว่าสวยที่สุดแต่เชื่อเถอะสวยไม่ซ้ำกัน ลองไปกันสักครั้งแล้วคุณจะรู้ว่าการที่คุณได้ไปที่ใหม่ๆมันทำให้คุณเจออะไรที่ประทับใจ (และขี้เกียจจะกลับไปทำงาน) อยากจะเที่ยวกันให้ทุกเดือนไปเลย
รักษ์เมืองไทย เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ แล้วคุณจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องนะเอออออ
***ขอบคุณผู้ร่วมทริปนะค๊าบบ**
[CR] Trip 4 เขื่อนเชี่ยวหลาน 2 คนก็ไปได้
(กุ้ยหลินเมืองไทย)
อุทยานแห่งชาติเขาสก
“เขื่อนรัชชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”
เขื่อนเชี่ยวหลาน อยู่ในพื้นที่ของจังหวัด สุราษฎร์ธานี ที่ขึ้นชื่อว่า "เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ" ถ้าถามความสวยก็สวยมากๆ เป็นอ่างเก็บน้ำที่สวยเอามากๆ มีภูเขาหินกระจายไปทั่วอ่างเก็บน้ำ น้ำในอ่างเป็นสีเขียวเข้มมรกต (จนบางที่ก็แอบคิดว่านี่มาอยู่กลางทะเลป่าวว่ะ ) และมีน้ำอยู่ในปริมาณที่เยอะมาก กักเก็บน้ำสูงสุดเป็นอันดับ 5 ของประเทศ (นี่คิดว่าเก็บได้มากสุดของประเทศแล้วนะ แต่ก็ยังไม่ใช่) เพราะเขื่อนดูใหญ่มาก
ถ้าถามว่ารอบนี้มาไง ง่ายๆรวดเร็วก็เครื่องบิน ลงจอดปุบ ส่วนรอบนี้เราใช้รถส่วนตัวไป ถ้าใครเอารถไปแล้วจะนอนพักบนแพก็มีจุดรับฝากรถบนฝั่ง ถ้าจำไม่ผิดคืนละ 80 บาท(ถ้าจำไม่ผิดนะ) ส่วนราคาเรือแนะนำว่าให้ไปกันเป็นกลุ่มหลายๆคนจะคุ้มและถูกกว่า เพราะอย่างรอบนี้เราไป 2 คน เหมาเรือลำละ 2000 บาท แล้วแต่ความไกลของแพที่พักที่จะพักด้วย ส่วนพวกเรารอบนี้เลือกพักแพของอุทยาน "แพนางไพร " แพจะอยู่ตรงข้ามกับเขาสามเกลอ แพหันหน้าไปทางเขาสามเกลอจุดพ้อย ถ้าสนใจติดต่อ ลุงอรุณ 081-085-1762 จองแพได้ และมีบริการเรือ แพที่พักราคาไม่สูง อยู่ที่ 300 บาทไม่รวมค่าอาหาร ถ้าไปจำนวนเยอะก็จะมีค่าอาหาร อีกนิดหน่อย ห้องน้ำแยก แต่สะดวก โดยรวมพวกเราว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยนะ
แพนางไพรอยู่ไม่ไกลมาก และเป็นแพอุทยานที่เป็นจุดให้เรือมาจอดแวะพัก ตลอดวัน จุดเล่นน้ำก็ด้านหน้าแพ มีเรือให้พายเล่น น้ำน่าเล่น วิวดี ไม่มีพัดลม แอร์ เพราะอากาศดีอยู่แล้วหายห่วง (มีสัญญาาณโทรศัพท์ ) ถ้าใครสนใจเข้าไปไกลกว่านั้นของอุทยายยังมีอีกหลายแพ อาทิ แพโตนเตย แพคลอง แพไกรสร งบน้อยแนะนำแพของอุทยานราคาไม่สูง สะอาด ประหยัด
หลังจากถึงแพ ก็จัดการสัมภาระต่างๆเข้าที่พัก ถ้าใครสนใจจะไปดูถ้ำ ชมวิวก็ลองติดต่อถามเรือที่มา พวกเราติดต่อต้องเสียเพิ่มอีก 2000 บาท สำหรับจะไปดูถ้ำ (ไปแล้วก็อยากไปให้คุ้ม ) จริงๆมันมีอยู่หลายจุดสำหรับจุดชมวิว แต่บางจุดก็ปิดในบางช่วง ส่วนรอบนี้พวกเราข้อไปบุกถ้ำ ซึ่งนั่งเรือต่อไปอีกหน่อย ผ่านแพที่พักอีกหลายแพ เข้าลึกนิดหน่อย ลงจุดลงเรือเดินต่อไปเพื่อไปต่อแพไม่ไผ่(ยนตร์) เพื่อไปยังถ้ำหินปูนมีประกายวิ้งๆ
นั่งแพไม่ไผ่ไปสัก 10 นาที(น่าจะถึงมั่งนะ) ก็จะถึงจุดลงแพ เดินขึ้นไปที่ถ้ำ ส่วนมากก็จะมาเจอกับกลุ่มอื่นๆที่มาด้วย รอบที่ไปเจอลุงที่บริการแพ แกเล่าเรื่องเขื่อนสนุกดี
เดินขึ้นไปดูหินปูนในถ้ำ จะมีประกายวิ้งๆตามจุดต่างๆในถ้ำ หินหงอกหินย้อยเป็นหยุดน้ำตกลงมา
นี่แค่บางมุม ถ้าถามว่าสวยมั้ยสวย ถ้าถามมีแค่นี้เหรอ ใช่ แต่วิวตรงจุดที่เราไปสวยนะ จุดแพไม้ไผ่ จุดลงเรือ มีผีเสื้อเยอะมาก วิวตรงนี้จะอยู่ในหุบเข้าหิน เหมือนมีหินล้อมรอบ ย่อยๆ
ลุงแกหน้ามืดไปหน่อย แดดมันแรง (
ชมวิวดูถ้ำจบก็นั่งเรือกลับที่พัก ไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาให้ตกน้ำเล่น จะกระโดด จะกลิ้ง จะโพสท่ากระโดดยังไงก็จัดกันไปตามแต่สะดวก 555
(ขาหมูเย็นๆมาแล้วจ้า -.-)
ถ้าใครนอนที่แพ ตื่นเช้ามาก็จะเห็นหมอกทั่วเขื่อน อากาศเย็นๆกลางทะเลหมอก บรรยากาศเงียบๆ ตอนเช้าๆ
ตื่นสายไง หมอกหาย 55 ไม่ต้องตกใจมีหมอกเยอะจิงๆ
ตื่นมาก็เล่นน้ำกันต่อได้เลย น้ำอุ่นมากไม่เย็น
ปลาที่อยู่บริเวณแพที่พัก เยอะมาก
ในเขื่อนไม่มีปลาทีนนะ 55
แพที่พักส่วนใหญ่จะมีเรือเข้ามาเทียบขายของ อย่างวันนั้นก็เจอไอศครีมมะพร้าว อร่อย ^^ กินหมดหายห่วง
ถ้าใครจะซื้อขนม หรือน้ำแข็ง น้ำดื่มไป แนะนำซื้อจากฝั่งไปนะ แวะเซเว่นหรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะบนแพไม่มีพวกขนมขาย ใครจะซื้อกระติกหรืออะไรใส่ไปก็ได้ เพราะเอาลงเรือได้หมด สะดวกดีด้วย อาหารบนแพก็มีจะสั่งบนแพก็สั่งได้ แต่ต้องสั่งไว้
พอสายๆก็นั่งเรือกลับฝั่ง ก็นัดกับคนขับเรือไว้ เวลาไหน ยังไง ตอนกลับส่วนใหญ่ก็จะไปแวะจุดเขาสามเกลอ จุดพ้อยหลักๆ เพื่อถ่ายรูปกัน
จะบอกว่า ของจริงที่คุณจะไป มันสวยกว่ารูปอีกหลายเท่า อยากให้ไปเองมากกว่ามานั่งดูรูปนะ ว่ามันสวยยังไง แตกต่างจากที่อื่นๆยังไง เพราะทุกๆที่ของประเทศไทยไม่มีเหมือนหรือซ้ำกันจริง ๆ ไม่รับรองว่าสวยที่สุดแต่เชื่อเถอะสวยไม่ซ้ำกัน ลองไปกันสักครั้งแล้วคุณจะรู้ว่าการที่คุณได้ไปที่ใหม่ๆมันทำให้คุณเจออะไรที่ประทับใจ (และขี้เกียจจะกลับไปทำงาน) อยากจะเที่ยวกันให้ทุกเดือนไปเลย
รักษ์เมืองไทย เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ แล้วคุณจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องนะเอออออ
***ขอบคุณผู้ร่วมทริปนะค๊าบบ**